พูดถึงสุโขทัย แล้วนึกถึงอะไรกันบ้างเอ่ย เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงนึกถึงราชธานีเก่า กรุงสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงผู้ประดิษฐ์อักษรไทย อุทยานประวัติศาสตร์ เป็นแน่แท้ แต่นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว สุโขทัยยังเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามอีกด้วย วันนี้เราอาสาจะพาท่านไปย้อนรอยประวัติศาสตร์กรุงสุโขทัย ไปดูวิถีชีวิตชุมชนบ้านนาต้นจั่น และแวะชิมข้าวเปิ้บ ก๋วยเตี๋ยวแบของกินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุโขทัยกัน
การเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังสุโขทัยนั้นทำได้หลายวิธี เช่น รถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง รถไฟ และเครื่องบิน โดยมีระยะห่างจากกรุงเทพประมาณ 400 กิโลเมตร
สำหรับการเดินทางในทริปนี้เราเลือกเดินทางโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และลงที่สนามบินสุโขทัย
จุดหมายแรกที่จะพาไปชม คือ อุทยานประวัติศาสตรสุโขทัย ในอดีตเมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ ภายในอุทยานฯ มีสถานที่สำคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน โดยมีคูเมือง กำแพงเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
และเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานในการชมอุทยานเราจะไม่เดินนะ ปั่นจักรยานกันดีกว่า เนื่องจากอุทยานมีพื้นที่มาก การเดินให้ทั่วนั้นเหนื่อยและใช้เวลามากนั่นเอง โดยด้านหน้าอุทยานฯ เขามีจักรยานเอาไว้ให้เช่าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ก็ไปเลือกสวยๆ มาสักคัน แล้ว ปั่น ปั่นๆ เข้าไปเลย
ภายในอุทยานมีถนนให้ปั่นจักยานออกกำลังกายโล่งๆ แบบนี้แหละ ปั่นได้ตามอัธยาศัย ไม่ต้องกลัวรถชน เพราะเขามีถนนให้เดินและปั่นจักรยานเป็นหลักอยู่แล้ว
เพื่อความเป็นศิริมงคล เพราะฉะนั้นเราต้องไหว้พระก่อนเป็นอันดับแรก พระด้านหน้าว่างามแล้ว ด้านหลังก็ยิ่งงามไม่แพ้กัน
เนื่องจากเราไปถึงใกล้ค่ำเต็มที ภาพที่ได้จึงมีพระอาทิตย์อัสดงเป็น background สวยงาม และได้บรรยากาศยามใกล้ค่ำ อย่างที่เห็น
สำหรับคนชอบถ่ายภาพ สามารถเลือกมุมกล้องได้ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว รอจังหวะพระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่มุมที่ต้องการแล้วกด แชะ แชะ แชะ แล้วก็แชะ
ใช้เวลาในการถ่ายรูปอยู่นานทีเดียว เพราะอะไรๆ ก็ดูสวยดูดี น่าเก็บภาพไปหมด หันมาดูนาฬิกาอีกที อ้าว! มืดเสียแล้ว งั้นพรุ่งนี้มาต่ออีกวัน วันนี้นอนพักเอาแรงก่อน
อ้าว ตื่นๆ เช้าแล้ว ไปโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวสายนะจ้ะ
เช้าอีกวันเราก็ออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อออกเดินทางต่อ จนถึงชุมชนบ้านนาต้นจั่น ซึ่งบ้านนาต้นจั่น ตั้งอยู่ในตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัด สุโขทัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ชุมชน อยู่กับธรรมชาติ ทุ่งหญ้า ป่าเขา
เราขับรถไปที่ รร.บ้านนาต้นจั่น แล้วจอดรถในสนามฟุตบอลอันกว้างใหญ่ มันเป็นการจอดรถที่มีความสุขมาก เพราะไม่ต้องแย่งที่จอดรถกับใคร สนามฟุตบอลใหญ่มากเลือกจอดได้ตามความพึงพอใจ อ้อที่เสาธงเขามีต้อนรับ AEC ด้วยข้อความภษาอังฤษ WELCOME TO BANNATONCHAN SCHOOL พร้อมธงชาติสมาชิกกลุ่ม AEC ครบทั้ง 10 ประเทศด้วยนะ
แต่เราไม่ได้มาโรงเรียนเพื่อเคารพธงชาตินะ อย่าเข้าใจผิด เรามาแวะกลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านนาต้นจั่นต่างหากเล่า ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนนั่นเอง
ที่นี่เขามีผ้าหมักโคลนอันมีชื่อเสียงขจรขจายไปไกล จนเราต้องค้นหาและเดินทางมาให้ถึง ซึ่งไม่เสียเที่ยวครับ เราซื้อและขนเสื้อผ้า กระเป๋า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของที่นี่ขึ้นเต็มคันรถกลับบ้านไปอย่างมีความสุข
หลังจากช้อปปิ้งจนพอใจแล้ว เราก็เดินทางไปหาของกินสิครับจะช้าอยู่ใย และแน่นอนที่สุดมาที่นี่ถ้าไม่ได้ทานข้าวเปิ้บ ก๋วยเตี๋ยวแบ แล้วจะบอกว่ามาถึงบ้านนาต้นจั่นได้อย่างไร เราจึงมุ่งหน้าไปร้านยายเครื่อง เพื่อการนี้กัน
จากโรงเรียนไปร้านข้าวเปิ้บยายเครื่องนั้นไม่ไกลเท่าใดนัก เราก็เห็นร่มเขียวๆ มีโต๊ะไม้จัดใต้ถุนบ้าน และรอบบริเวณบ้านวางเรียงราย มีลูกค้านั่งทานกันอยู่ค่อนข้างหนาตาเลยเลย บ่งบอกถึงความฮอตของคุณยาย
แล้วเราก็สั่งข้าวเปิ้บ ก๋วยเตี๋ยวแบไปชุดใหญ่ ด้วยความหิวกระหาย ระหว่างรอกินเราก็แอบไปดูกระบวนการผลิตซึ่งก็ทำกันหน้าบ้านนั่นแหละไม่ได้เป็นความลับอะไร แถมโชว์ให้ดู พร้อมบรรยายให้เราฟังอีกต่างหาก
การทำข้าวเปิ้บก็เอาผ้ามาขึ้นตรงปากหม้อซึ่งภายในบรรจุน้ำ แล้วต้มให้เดือด ไอความร้อนจะมาทำให้ผัก แป้ง และบรรดาส่วนประกอบที่ใส่ลงไปในเมนูนั้นสุกอย่างรวดเร็ว
เพื่อให้สุกให้ทั่วก็เอาตะหลิว กลับ พลิกไป พลิกมา
ไข่ก็ตอกมันตรงนี้แหละ อ้อใส่ได้ทีละหลายฟองนะ มือนั่นก็คือมือยายเครื่องนั่นแหละ พอดีดูการทำงานเพลิน เลยลืมถ่ายหน้ายายเครื่อง กลับมาบ้านเปิดดูไฟล์ถึงรู้ว่าพลาดไปได้ไงนะเรานี่
เสร็จแล้วก็ได้เวลาเสริฟอาหารให้กับคุณลูกค้าสุดที่รัก ซึ่งพนักงานก็ลูกๆ หลานๆ คนในชุมชนนั่นแหละ แต่เดิมก็เข้าไปทำงานในกรุงเทพกัน แต่หลังจากมีการพัฒนาชุมชนเศรษฐกิจอะไรๆ ก็ดีขึ้น ลูกๆ หลานจึงมีงานทำที่บ้านเกิดทะยอยกลับมาทำงานที่หมู่บ้านกันเป็นแถว
ต้องบอกว่าข้าวเปิ้บ ก๋วยเตี๋ยวแบของเขาอร่อยเด็ดสมชื่อ และเราแอบได้ทราบมาว่ายายเครื่องไม่เปิดสาขาอะไรที่ไหนนะ อยากกินต้องมาหายายที่นี่แหละ
พออิ่มแล้วเราก็เริ่มสนใจสิ่งรอบข้างอื่นๆ อีกครั้ง เราสังเกตเห็นว่านอกจากของกินแล้ว ยังมีของเล่นของเด็กๆ ขายในละแวกใกล้เคียงด้วย เช่น หนังสะติ๊ก เอาลูกหินใส่เข้าไป ดึงสายให้สุด แล้วปล่อยลูกหินลอยละลิ่วออกไปนอกจักรวาลเลย สนุกดีแท้ 555
ต่อจากร้านยายเครื่องเราก็เดินทางต่อจนมาถึงบ้านของคุณตาวงศ์ เสาฝั้น ซึ่งเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการทำตุ๊กตาบาร์โหน ของเล่นเด็กที่ช่วยฝึกบริหารมือได้ดีทีเดียว คุณตาทำตุ๊กตานี้มากว่า 20 แล้ว เวลาเราบีบที่เสาตุ๊กตาจะโหนขึ้น พลิกแพลงเป็นท่าต่างๆ มากมาย คุณตาสาธิตให้เราดู ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะอุดหนุนคุณตา เอากลับมาที่บ้านให้เพื่อนๆ ในสำนักงานได้เล่นและบริหารมือกันเป็นที่ครื้นเครงยิ่งนัก
แล้วก็ได้เวลากลับแล้ว สำหรับทริปนี้ ก็ต้องบอกว่ามีความสุข และมีรอยยิ้มกับเมืองประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชนอันงดงามแห่งนี้ โอกาสหน้าเราต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน
พบกันใหม่ ขอบคุณและสวัสดี
Clip ที่เกี่ยวข้อง
เมนูอาหารแนะนำทั้ง 5 ภาค
อาหารถิ่นภาคตะวันออก ไปแล้วไม่ได้กิน ถือว่าไปไม่ถึง
เที่ยวเมืองไทยชวนชิม
ตามล่าหา หน่อกะลา หากินได้ที่นี่ที่เดียวในประเทศ
เที่ยวสุโขทัย ไหว้พระ ส่องวิถีชุม ตะลุยชิมข้าวเปิ๊บ ก๋วยเตี๋ยวแบ
แผนที่อาหารถิ่นต้องห้าม... พลาด
เที่ยวเมืองไทยชวนชิม
ตามล่าหา หน่อกะลา หากินได้ที่นี่ที่เดียวในประเทศ
เที่ยวสุโขทัย ไหว้พระ ส่องวิถีชุม ตะลุยชิมข้าวเปิ๊บ ก๋วยเตี๋ยวแบ
แผนที่อาหารถิ่นต้องห้าม... พลาด
#sawasdeetatblog2016 #thailand #sukhothai
No comments:
Post a Comment